ปวดหลังทำไมต้องสนใจ? อาการที่ดูธรรมดาแต่แฝงอันตราย!
คุณเคยมีอาการปวดหลังแล้วคิดว่า “พักเดี๋ยวก็คงหาย”?
ถ้าใช่ คุณไม่ได้อยู่คนเดียว! อาการปวดหลังเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยที่สุดในกลุ่มคนทำงานทุกเพศทุกวัย
แต่รู้หรือไม่ว่าการละเลยหรือไม่ดูแลตั้งแต่เนิ่นๆ อาจทำให้อาการนี้ลุกลามจนเกิดปัญหารุนแรง เช่น หมอนรองกระดูกเคลื่อน หรือกระดูกเสื่อมเร็วกว่าที่ควรจะเป็น
ปวดหลังเกิดจากอะไรได้บ้าง?
1. พฤติกรรมการใช้ชีวิต: นั่งผิดท่า ยกของผิดวิธี หรือนั่งหน้าคอมพิวเตอร์นานเกินไป
2. กล้ามเนื้ออักเสบ: จากการทำงานหนักหรือการออกกำลังกายผิดท่า
3. หมอนรองกระดูกเคลื่อน: เส้นประสาทถูกกดทับจนทำให้เกิดอาการปวดร้าวลงขาหรือสะโพก
4. โรคประจำตัว: เช่น โรคกระดูกพรุน หรือข้ออักเสบรูมาตอยด์
แล้วเราจะจัดการกับอาการปวดหลังได้อย่างไร?
1. เริ่มจากพฤติกรรมประจำวัน:
• ปรับท่านั่งให้ถูกต้อง: หลังตรง วางเท้าราบบนพื้น
• หลีกเลี่ยงการยกของหนักแบบก้มหลัง ให้ใช้วิธีย่อเข่า
• เลือกที่นอนที่รองรับสรีระอย่างเหมาะสม
2. ออกกำลังกายที่เหมาะสม:
• ท่ายืดกล้ามเนื้อ เช่น ท่าแมว-วัว (Cat-Cow Pose) ช่วยลดความตึงของกล้ามเนื้อหลัง
• การว่ายน้ำ: ช่วยลดแรงกดบนกระดูกสันหลัง
3. การรักษาทางการแพทย์:
หากอาการปวดไม่ดีขึ้นใน 2 สัปดาห์ ควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
• กายภาพบำบัด: เพื่อฟื้นฟูความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ
• การฉีดยาระงับปวด: ในกรณีที่มีอาการเส้นประสาทถูกกดทับ
• การผ่าตัด: เมื่อการรักษาแบบอื่นไม่ได้ผล โดยเฉพาะกรณีหมอนรองกระดูกเคลื่อนกดทับเส้นประสาทอย่างรุนแรง
อย่าปล่อยให้ “ปวดหลัง” กลายเป็นเรื่องเรื้อรัง!
การดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณมีสุขภาพหลังที่ดีในระยะยาว ถ้าคุณหรือคนใกล้ตัวกำลังเผชิญปัญหานี้ อย่าลังเลที่จะปรึกษาแพทย์ เพราะการดูแลที่เหมาะสมในเวลาที่ถูกต้องอาจช่วยป้องกันปัญหาใหญ่ในอนาคต
#ปวดหลัง #หมอนรองกระดูกเคลื่อน #กายภาพบำบัด #ดูแลตัวเอง #สุขภาพดีเริ่มที่ตัวเรา #หมอเก่งกระดูกและข้อ
ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์
ปรึกษาปัญหากระดูกและข้อได้ที่ line ID @doctorkeng ไม่เสียค่าใช้จ่าย
https://page.line.me/vjn2149j?openQrModal=tru