วันเสาร์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ปวดหลัง–ชามือชาเท้ามานานหลายปีหลังผ่าตัดกระดูกสันหลัง… ทำไมยังไม่หาย? และจะดีขึ้นได้อย่างไร


ปวดหลัง–ชามือชาเท้ามานานหลายปีหลังผ่าตัดกระดูกสันหลัง… ทำไมยังไม่หาย? และจะดีขึ้นได้อย่างไร

กรณีตัวอย่างนี้เป็นของ ผู้หญิงอายุ 67 ปี ที่ผ่าตัดใส่เหล็กดามกระดูกสันหลังมา 3 ปี แต่ยังมีอาการ

  • ปวดหลังเรื้อรัง
  • ชามือและเท้าตลอดเวลา
  • ใช้ชีวิตลำบาก ทำงานบ้านไม่สะดวก

คำถามที่หลายคนสงสัยคือ “ผ่าตัดมาแล้ว ทำไมยังปวด–ชาต่อเนื่อง? ผ่าตัดไม่สำเร็จหรือไม่?”

ความจริงคือ… ไม่ใช่การผ่าตัดล้มเหลวเสมอไป แต่เป็นอาการที่พบได้บ่อยในผู้ป่วยหลังผ่าตัดกระดูกสันหลัง และยังมีวิธีทำให้ดีขึ้นได้อย่างมีหลักฐานทางการแพทย์

บทความนี้หมอจะอธิบายให้ประชาชนทั่วไปเข้าใจง่าย ๆ ว่าอาการนี้เกิดจากอะไร ตรวจอย่างไร และมีทางรักษาแบบใดบ้างให้ดีขึ้นได้จริง

🔍 ทำไมหลังผ่าตัดกระดูกสันหลังแล้ว ยังมีอาการปวด–ชา?

โรคนี้เรียกรวม ๆ ว่า Failed Back Surgery Syndrome (FBSS) หรือ “ปวดหลังเรื้อรังหลังผ่าตัด” ซึ่งไม่ได้แปลว่าผ่าตัดผิดพลาด แต่เกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่:

✔ 1) เส้นประสาทถูกกดทับมานานก่อนผ่าตัด

เส้นประสาทที่ถูกกดเป็นเวลานานอาจเกิดการอักเสบหรือเสื่อม ทำให้แม้ผ่าตัดแล้ว อาการชาอาจยังไม่หาย 100% แต่ดีขึ้นได้ด้วยการฟื้นฟู

✔ 2) พังผืดรัดรอบเส้นประสาท (Epidural fibrosis)

เกิดขึ้นได้ 6–12 เดือนหลังผ่าตัด ทำให้เจ็บ–ชาตามเส้นประสาทลุกลามลงขา หรือชามือเท้า

✔ 3) ข้อกระดูกข้างเคียงเสื่อมเร็วกว่าปกติ

เมื่อมีเหล็กดาม จุดเหนือ–ใต้ตำแหน่งดามจะรับแรงมากขึ้น → ทำให้เสื่อมเร็ว → ปวดหลังเรื้อรัง

✔ 4) กล้ามเนื้อหลัง–สะโพกอ่อนแรงหลังผ่าตัด

พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ ถ้าไม่ได้ทำกายภาพบำบัดเฉพาะทาง

✔ 5) ปลายประสาทเสื่อมจากอายุ (Peripheral Neuropathy)

เป็นสาเหตุสำคัญของ “ชามือ–เท้าตลอดเวลา” โดยเฉพาะในวัย 60+ และผู้ที่มีเบาหวาน ไทรอยด์ หรือขาดวิตามิน B12

✔ 6) เหล็กดามอาจหลมหรือเกิดการอักเสบเฉพาะจุด

ไม่พบมาก แต่ต้องตรวจ

อาการทั้งหมดนี้ “รักษาได้” ถ้าตรวจให้พบสาเหตุที่แท้จริง

🧠 อาการแบบไหนเข้าข่ายต้องตรวจเพิ่มเติม?

  • ปวดหลังตลอดเวลา หรือมากขึ้นเรื่อย ๆ
  • ชามือ–เท้า 2 ข้างร่วมด้วย
  • เจ็บเหมือนไฟช็อต ร้าวลงขา
  • เดินไกลไม่ได้ ต้องหยุดพักบ่อย
  • อ่อนแรง ยกเท้าไม่ขึ้น สะดุดง่าย
  • ปวดหรือชาเกิน 3 เดือนหลังผ่าตัด

หากมีอาการเหล่านี้ แปลว่า “เส้นประสาทยังมีปัญหา” จำเป็นต้องตรวจให้ละเอียดครับ

🧪 การตรวจที่จำเป็นเพื่อหาสาเหตุ

การตรวจที่แม่นยำทำให้รักษาได้ตรงจุด

✔ 1) MRI กระดูกสันหลังซ้ำ (จำเป็นมาก)

เพื่อดู

  • พังผืดกดเส้นประสาท
  • หมอนรองปลิ้นใหม่
  • กระดูกเสื่อมที่ข้อข้างเคียง
  • เหล็กดามหลุดหรือเลื่อน

✔ 2) ตรวจไฟฟ้าเส้นประสาท (EMG/NCS)

วินิจฉัยได้ว่า “ชามือ–เท้า” เกิดจาก

  • เส้นประสาทส่วนปลายเสื่อม
  • เส้นประสาทจากคอกด
  • เส้นประสาทจากหลังถูกกดทับ

✔ 3) X-ray หลังยืน – ก้ม–เงย

เพื่อดูความมั่นคงของเหล็กดามและกระดูก

✔ 4) ตรวจเลือด

  • เบาหวาน (น้ำตาลสะสม HbA1c)
  • วิตามิน B12
  • ไทรอยด์
  • ไต–เลือด–เกลือแร่

🩺 แนวทางรักษาที่ได้ผลและปลอดภัย

แม้จะผ่าตัดมาแล้วหลายปี แต่ผู้ป่วยยัง “ดีขึ้นได้” หากรักษาตรงจุด

✔ 1) กายภาพบำบัดเฉพาะทางหลังผ่าตัด

ต้องเน้น

  • กล้ามเนื้อหลัง–สะโพก–หน้าท้อง (Core)
  • การเดิน–นั่ง–ยืนให้ถูกท่า
  • เทคนิคยืดเส้นประสาท (Nerve gliding) ช่วยให้ปวดลดลงและฟื้นตัวเร็วมาก

✔ 2) ฉีดยาลดอักเสบเฉพาะเส้นประสาท (Epidural / Nerve root block)

เหมาะกับผู้ที่ยังปวดร้าวลงขา หรือชาจากเส้นประสาทถูกพังผืดรัด

ผลการฉีด

  • ลดอักเสบเฉพาะจุด
  • เดินได้ดีขึ้น
  • ชาลดลงหลายสัปดาห์–หลายเดือน

✔ 3) ฉีดบริเวณข้อต่อที่เสื่อม และข้อต่อ SI joint

ถ้าปวดหลังช่วงล่างมาก

✔ 4) รักษาอาการปลายประสาทเสื่อมร่วม

  • วิตามิน B-complex
  • ยาระงับปวดเส้นประสาท (ให้แพทย์ประเมิน)
  • ควบคุมเบาหวาน/ไทรอยด์

✔ 5) ทบทวนยาแก้ปวดให้เหมาะสม

เช่น ยากลุ่มที่ช่วยลดอาการชา–แสบร้อน (pregabalin / duloxetine)

✔ 6) พิจารณาผ่าตัดแก้ไข (Revision surgery) – เฉพาะรายจำเป็น

ใช้ในกรณี

  • เหล็กหลุด
  • กระดูกไม่ติด
  • ข้อข้างเคียงเสื่อมรุนแรง
  • เส้นประสาทถูกกดอย่างมากจากหมอนรองใหม่

ไม่ใช่วิธีแรก แต่เป็นทางเลือกเมื่อรักษาแบบอนุรักษ์ไม่ดีขึ้น

✨ พยากรณ์โรค

แม้อาการจะเรื้อรังมาหลายปี แต่ผู้ป่วยจำนวนมากดีขึ้นอย่างชัดเจนหลัง

  • กายภาพเฉพาะทาง 4–8 สัปดาห์
  • ฉีดยาลดการอักเสบเฉพาะจุด
  • รักษาปลายประสาทเสื่อมร่วม

อาการปวด–ชามักดีขึ้น 40–80% ในหลายเคส เมื่อรักษาตรงจุด

💡 บทสรุปสำหรับประชาชนทั่วไป

อาการ ปวดหลัง–ชามือเท้าตลอดเวลาแม้ผ่าตัดใส่เหล็กมาแล้วหลายปี ไม่ใช่เรื่องที่ต้องทนอยู่ตลอดไป

และไม่ได้แปลว่าผ่าตัดล้มเหลวเสมอไป แต่เกิดจากหลายปัจจัย เช่น พังผืดรัดเส้นประสาท เส้นประสาทเสื่อม ข้อข้างเคียงเสื่อม หรือกล้ามเนื้อหลังอ่อนแรง

การตรวจอย่างเป็นระบบ (MRI, EMG/NCS, ตรวจเลือด) จะช่วยหาต้นเหตุที่แท้จริง และนำไปสู่การรักษาที่ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตได้ดีขึ้น

หากทำถูกวิธี ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะกลับมายืน เดิน ทำกิจวัตรต่าง ๆ ได้ดีขึ้นเรื่อย ๆ และคุณภาพชีวิตดีขึ้นมากครับ

บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์

สามารถปรึกษาปัญหากระดูกและข้อ หรืออาการปวด ได้ที่

ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ (หมอเก่ง)

ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ

📱 Line ID: @doctorkeng โทร 081-5303666

#ปวดหลังเรื้อรัง #หลังผ่าตัดยังปวด #ชามือเท้า #พังผืดหลังผ่าตัด #หมอเก่ง #สุขภาพกระดูก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น