ปวดร้าวลงขา! เป็น "กระดูกทับเส้น" หรือแค่ "สลักเพชรจม"? แยกให้ออกก่อนผ่าตัดฟรี!
"หมอคะ ป้าปวดก้นย้อยร้าวลงขามากเลย นั่งนานๆ ไม่ได้เลยค่ะ มันจี๊ดเหมือนไฟช็อต ไปหาหมอนวดเขาบอกว่าเป็น 'สลักเพชรจม' นวดกดจุดจนระบมไปหมดก็ไม่หาย เพื่อนบ้านบอกระวังเป็นกระดูกทับเส้นนะต้องผ่าตัด... ป้าเครียดจนนอนไม่หลับแล้วค่ะ ตกลงป้าเป็นอะไรกันแน่?"
คำถามนี้เป็น "คำถามปราบเซียน" ที่หมอเจอแทบทุกวันครับ
อาการ "ปวดร้าวลงขา" (Sciatica) เป็นเหมือนสัญญาณกันขโมยที่บอกว่า "เส้นประสาทขาของคุณกำลังถูกบีบ" ครับ แต่ประเด็นคือ... "ใครเป็นคนบีบ?"
- ถ้าคนบีบคือ "กระดูกสันหลัง" = เรื่องใหญ่ (Herniated Disc)
- แต่ถ้าคนบีบคือ "กล้ามเนื้อก้น" = เรื่องเล็ก (Piriformis Syndrome)
อาการมันคล้ายกันจนเหมือนฝาแฝด แต่การรักษาต่างกันราวฟ้ากับเหว
รู้จักกับเส้นทางเดินของ "สายไฟ" (Sciatic Nerve)
เส้นประสาทไซอาติก (Sciatic Nerve) คือเส้นประสาทที่ใหญ่และยาวที่สุดในร่างกายครับ
- ต้นทาง: ออกมาจากกระดูกสันหลังส่วนเอว (L4-S3)
- ระหว่างทาง: ลอดผ่านใต้กล้ามเนื้อก้นมัดลึก ที่ชื่อว่า "Piriformis" (กล้ามเนื้อรูปชมพู่)
- ปลายทาง: วิ่งยาวลงไปที่ขา น่อง และเท้า
เปรียบเหมือน "สายยางรดน้ำ" ที่ต่อจากก๊อก (หลัง) ลากผ่านสนามหญ้า (ก้น) ไปหน้าบ้าน (ขา) น้ำจะไม่ไหล (ปวด/ชา) ได้จาก 2 กรณีครับ:
- โดนเหยียบที่ก๊อกน้ำ: คือ กระดูกสันหลังทับเส้น
- โดนเหยียบกลางสนามหญ้า: คือ กล้ามเนื้อก้นทับเส้น (สลักเพชรจม)
ถ้าเราเอาคนไข้ที่มีอาการ "ปวดร้าวลงขา" (Sciatica) เดินเข้ามาในคลินิก 100 คน:
ประมาณ 85 - 90 คน เกิดจากปัญหาที่ "หลัง" (หมอนรองกระดูกทับเส้น หรือ กระดูกสันหลังเสื่อมกดทับเส้นประสาท Radiculopathy)
ประมาณ 5 - 6 คน เท่านั้นที่เกิดจาก "กล้ามเนื้อสลักเพชร" (Piriformis Syndrome)
ส่วนที่เหลือ เกิดจากสาเหตุอื่นๆ (เช่น เนื้องอก, การติดเชื้อ, หรือโรคข้อสะโพก)
โรคที่ 1: หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท (The Real Sciatica)
อันนี้คือ "ของจริง" ครับ เกิดจากความเสื่อมของหมอนรองกระดูก หรือกระดูกสันหลังที่เอว
- จุดกำเนิด: ปวดที่ "หลังส่วนล่าง" (เอว) เป็นหลัก แล้วร้าวลงขา
- ท่าที่แพ้ทาง: "ก้มตัว" (เช่น ก้มใส่กางเกง ก้มหยิบของ) หรือ "ไอ/จาม" แล้วสะเทือนร้าวลงขา
- ท่านอน: มักจะชอบนอนหงายชันเข่า หรือนอนตะแคงงอตัว อาการจะดีขึ้น
- การยกขา: ถ้านอนหงายแล้วให้คนอื่นยกขาข้างที่ปวดขึ้นตรงๆ (Straight Leg Raise) จะยกได้ไม่สูง จะปวดร้าวลงขาทันที เพราะเส้นประสาทที่หลังถูกดึงรั้ง
โรคที่ 2: สลักเพชรจม (Piriformis Syndrome)
อันนี้คือ "ตัวปลอม" หรือ "โรคเลียนแบบ" ครับ เกิดจากกล้ามเนื้อก้นชั้นลึก (Piriformis) มันตึง เกร็ง หรืออักเสบ จนไปบีบรัดเส้นประสาทที่วิ่งผ่านมัน
- จุดกำเนิด: ปวดลึกๆ ที่ "แก้มก้น" (Buttock pain) เหมือนมีจุดกดเจ็บอยู่ข้างใน กดแล้วจี๊ด
- ท่าที่แพ้ทาง: "นั่งนานๆ" (โดยเฉพาะเก้าอี้แข็งๆ หรือพื้น), "นั่งไขว่ห้าง", "ขับรถนาน", หรือในผู้ชายที่ชอบ "ใส่กระเป๋าสตางค์หนาๆ ไว้กระเป๋าหลัง" แล้วนั่งทับ (Wallet Neuritis)
- การเดิน: บางคนบอกว่า "เดินแล้วสบายกว่านั่ง" (ต่างจากกระดูกทับเส้นที่เดินแล้วปวด)
- ท่าตรวจ: ลองนั่งไขว่ห้างเป็นเลข 4 (เอาข้อเท้าข้างที่เจ็บวางบนเข่าอีกข้าง) แล้วก้มตัวลง... จะปวดตึงที่ก้นลึกๆ แทบขาดใจ!
สรุปความแตกต่างให้เห็นภาพชัดเจน
เพื่อให้จำง่ายขึ้น หมอขอสรุปแยกเป็น 2 กลุ่มอาการ ดังนี้ครับ:
กลุ่ม A: กระดูกทับเส้น (Herniated Disc)
- จุดเริ่มปวด: เริ่มที่ "หลังเอว"
- อาการไอ/จาม: สะเทือน "เจ็บร้าวลงขา"
- การนั่ง: นั่งพื้นแข็งหรือนั่งนานๆ จะปวดเมื่อยหลัง
- การเดิน: เดินไกลๆ มักจะปวดมากขึ้น หรือขาอ่อนแรง
- สาเหตุหลัก: ยกของหนัก, ก้มผิดท่า
กลุ่ม B: สลักเพชรจม (Piriformis Syndrome)
- จุดเริ่มปวด: เริ่มที่ "แก้มก้นลึกๆ"
- อาการไอ/จาม: "ไม่เจ็บ"
- การนั่ง: นั่งพื้นแข็งหรือนั่งนานๆ จะ "ปวดก้น/ขาชา" ทรมานมาก
- การเดิน: เดินแล้วอาการอาจจะ "ดีขึ้น" (เพราะกล้ามเนื้อก้นได้ขยับคลายตัว)
- สาเหตุหลัก: นั่งนาน, วิ่งเยอะ, นั่งไขว่ห้าง
ต้องตรวจอะไรเพิ่มไหม?
เพื่อให้ชัวร์ หมอแนะนำ:
- เอกซเรย์ (X-ray): ดูโครงสร้างกระดูกสันหลัง
- MRI: อันนี้คือ "ตาสวรรค์" ครับ แยกได้เ
- ถ้าเห็นหมอนรองกระดูกปลิ้นกดเส้น = โรคที่ 1
- ถ้าหลังปกติ แต่กล้ามเนื้อก้นดูบวมๆ = โรคที่ 2
แนวทางการรักษา (คนละทางเลย)
- ถ้าเป็น "กระดูกทับเส้น": เน้นลดการกดทับที่หลัง เช่น ดึงหลัง (Traction), ปรับท่านอน, เลี่ยงการก้มยกของ, ฉีดยาโพรงประสาท หรือผ่าตัด (ถ้าจำเป็น)
- ถ้าเป็น "สลักเพชรจม": เน้นคลายกล้ามเนื้อก้น!
- ยืดเหยียด (Stretching): ท่าเลข 4 (Figure 4 Stretch) คือยาขนานเอก
- นวด/กดจุด: ใช้ลูกเทนนิสคลึงที่แก้มก้น หรือนวดตอกเส้น (แต่ต้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญ ไม่งั้นระบม)
- Shockwave: ยิงคลื่นกระแทกใส่กล้ามเนื้อก้นที่เกร็ง ให้คลายตัว
- ปรับพฤติกรรม: เลิกนั่งไขว่ห้าง, เอาเป๋าตังค์ออกจากกระเป๋าหลัง, หาเบาะรองนั่งนุ่มๆ
บทส่งท้ายจากใจหมอ
เห็นไหมครับว่า "อาการเหมือนกัน แต่จำเลยคนละคน" ถ้าคุณเป็นแค่ "สลักเพชรจม" แต่ไปรักษาแบบผ่าตัดกระดูกสันหลัง... นอกจากจะเจ็บตัวฟรีแล้ว อาการปวดก้นก็จะไม่หายด้วยครับ
ลองเช็คตัวเองดูเบื้องต้น ลองยืดกล้ามเนื้อก้นดู ถ้าอาการดีขึ้น คุณอาจจะโชคดีที่เป็นแค่โรคกล้ามเนื้อครับ แต่ถ้าไม่แน่ใจ แวะมาให้หมอตรวจเช็คดีกว่าครับ วินิจฉัยถูก... รักษาแป๊บเดียวก็หายครับ
บทความนี้ให้ข้อมูลทั่วไป หากอาการไม่ดีขึ้นควรปรึกษาแพทย์
สามารถปรึกษาปัญหากระดูกและข้อ หรืออาการปวด ได้ที่ ผศ.นพ.ธนินนิตย์ ลีรพันธ์ (หมอเก่ง) ผู้เชี่ยวชาญโรคกระดูกและข้อ สอบถามปัญหาโรคกระดูกและข้อ ปวดหลัง ปวดคอ ปวดเข่า ปวดไหล่ กระดูกพรุน ได้ครับ 📱 Line ID: @doctorkeng
#สลักเพชรจม #PiriformisSyndrome #กระดูกทับเส้น #ปวดก้นร้าวลงขา #Sciatica #หมอเก่งกระดูกและข้อ #DoctorKeng
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น